
สาเหตุของอาการท้องผูก
สาเหตุของอาการท้องผูก มันเป็นปัญหาที่คน “ท้องผูก” ต้องเผชิญมาอย่างเนิ่นนาน กับปัญหาการขับถ่ายที่ไม่เป็นเวลา คุณภาพไม่ดี หรือจำเป็นต้องให้เวลาและอารมณ์ในการบิ้วกว่าที่มันจะออกมา หรือบางครั้งคุณอาจจะเสียเวลาไปหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถอุจจาระได้อย่างเป็นปกติ
โดยทั่วไปแล้ว อาการท้องผูก คือ ภาวะที่มีความถี่ในการถ่ายอุจจาระน้อยกว่าปกติ ถ่ายด้วยความยากลำบาก หรือถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
แล้วคุณแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไรค่ะ? บางคนก็หันไปพึ่งยาถ่าย ดีทอกซ์ หรือวิธีการสวนทวาร ซึ่งวิธีการเหล่านี้ควรเลือกเป็นอันดับท้ายๆ เพราะมันเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ไม่ใช่ต้นเหตุ และมีผลให้ปัญหาที่คุณมียังคงค้างคา และเป็นอยู่ตลอดไป บางครั้งมันอาจจะหายไปสักพัก แต่รับรองว่าอีกไม่นาน คุณก็จะกลับมาท้องผูกใหม่ได้อีกอย่างแน่นอน
แล้ววิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดจะเป็นอะไรไปได้ ถ้าไม่ใช่การปรับการรับประทานอาหารของคุณ ก่อนอื่น คุณต้องทราบก่อนว่าปัญหาท้องผูกมีสาเหตุมาจากอะไร ซึ่งสาเหตุของมัน ก็คือ
1. สาเหตุที่เกิดจากโรคทางกาย เช่น โรคเบาหวาน ต่อมไธรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง โรคทางระบบประสาทต่าง ๆ
2. สาเหตุจากยาที่รับประทานประจำ เช่น กลุ่มยาทางจิตเวช ยาแก้แพ้บางชนิด ยากันชัก เหล็ก ที่มีอยู่ในยาบำรุงเลือด
3. การอุดกั้นของทางเดินอาหาร เช่น โรคมะเร็งหรือเนื้องอกของลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก ลำไส้ตีบตัน ความผิดปกติที่ทวารหนัก
4. สาเหตุที่เกิดจากเคลื่อนไหวของลำไส้หรือกล้ามเนื้อที่ควบคุมการขับถ่ายผิดปกติ
ในบรรดาสาเหตุของอาการท้องผูกที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดขึ้นเนื่องจากการรับประทานอาหารที่ไม่ดี ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะลดลงหากคุณใช้ผลไม้เป็นตัวช่วย ดังต่อไปนี้

1. กล้วย
สารอาหารในกล้วยช่วยลดอาการท้องผูกได้ และยังช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องกินกล้วยให้ถูกช่วงอายุด้วย
โดยหากต้องการแก้อาการท้องผูก ต้องกินกล้วยสุกเพราะมีฤทธิเป็นยาระบายแก้ท้องผูก ทั้งนี้เพราะกล้วยมีสารเพ็กตินอยู่มาก จึงช่วยเพิ่มกากอาหารในลำไส้ได้ โดยกล้วยที่สุกงอมมากๆจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายสูง เพราะมีสารเพ็กตินมากกว่า ทั้งนี้ ฤทธิ์การระบายของกล้วยน้ำว้าสุกจะไม่รุนแรงมาก จึงต้องกินเป็นประจำวันละ 5-6 ลูก จึงจะเห็นผล
2. มะละกอ
มะละกอเป็นตัวช่วยขับปัสสาวะและขับอุจจาระได้ดี โดยเฉพาะมะละกอสุกจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ แถมพ่วงด้วยวิตามินเอที่สูง เหมาะต่อการบำรุงสายตา
ใครธาตุหนัก ต้องไปหามากินบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม การทานมะละกอมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อโรคกระดูก ข้อต่อ อาการนอนไม่หลับ และมีอาการเบื่ออาหารได้ เพราะฉะนั้นรับประทานให้พอเหมาะนะคะ
3. แอปเปิ้ล
อย่างที่เรารู้ดีว่าแอปเปิ้ลเป็นผลไม่ที่มีประโยชน์ แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่ามันเป็นตัวช่วยในการขับถ่ายอย่างดีมากๆตัวหนึ่ง เพราะแอปเปิลมีสารแพคตินที่ช่วยเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหาร จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบขับถ่ายได้ดี
มากไปกว่านั้น การรับประทานแอปเปิลยังได้วิตามินซี ที่มีส่วนในการช่วยป้องกันโรคหวัด ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด และป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย
4. ส้ม
ส้ม เป็นผลไม่ที่มีกากใยมาก แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค แข็งแรง และไม่เป็นหวัดง่าย
ทั้งนี้ การทานส้มให้ใประโยชน์ต่อการขับถ่าย ควรทานส้มทังชิ้น แบบที่ยังมีกากใยติดอยู่ ใครคิดว่าแค่ทานน้ำส้มก็น่าจะพอช่วยได้…คุณกำลังคิดผิด เพราะส่วนสำคัญที่จะช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ก็คือ เจ้ากากใยนี่ล่ะ อย่าดึงออกเสียหมดนะคะ
5. มะม่วงสุก
มะม่วง ผลไม้หน้าร้อนที่เหมาะต่อการเร่งการขับถ่าย เพราะในมะม่วงสุกจะมีวิตามินซีสูง และยังมีวิตามินเอ เบต้าแคโรทีนด้วย
การรับประทานผลไม้ขนิดนี้ จึงช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น ส่งผลให้การขับถ่ายเป็นไปได้ดีมากกว่าเดิม
6. ลูกพรุน
ลูกพรุน เป็นผลไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นสารสกัด ดื่มอึก 2 อึก ก็ช่วยให้ถ่ายคล่อง แต่ถ้าไม่ต้องการเสียเงินแพง การทานลูกพรุนสดก็ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้เหมือนกัน เพราะลูกพรุนมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการขับถ่าย แถมยังมีเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระด้วย ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพแน่นอน
7. สับปะรด
สับปะรด เป็นผลไม่ที่ช่วยย่อยอาหารได้ดี โดยเฉพาะอาหารจำพวกเนื้อสัตว์หรืออาหารที่มีโปรตีนสูง ดังนั้น ใครรู้ตัวว่าช่วงนี้กินโปรตีนมากเกินไป ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก ขับถ่ายยาก ก็ลองรับประทานสับปะรดกันดู มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบขับถ่ายได้ดีสุดๆ
8. ละมุด
ละมุด อาจเป็นผลไม้ที่คนไทยไม่สามารถหาซื้อกินได้ง่ายๆ และถึงแม้ว่ามันจะหาทานยากเอาสักหน่อย แต่ถ้าได้ทานละมุดเมื่อไหร่ ระบบการขับถ่ายของคุณจะดีขึ้นแน่นอน
เพราะละมุดเป็นผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูงมาก ช่วยป้องกันโรคท้องผูกได้ดี ใครท้องผูกเมื่อไหร่อย่าลืมนึกถึงผลไม้ชนิดนี้บ้างก็ดี
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยผลไม้หลากชนิด ซึ่งก็มีหลายชนิดที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ถ่ายยาก ก็ควรทานผลไม้กากใยสูงเหล่านี้เข้าไปให้มากๆ และตามด้วยการดื่มน้ำเข้าไปมากๆด้วย เพราะน้ำจะช่วยทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มลง และช่วยการขับถ่ายเป็นไปได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
มีผลไม้มากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา บางชนิดก็กินเพื่อลดน้ำหนัก บางชนิดก็กินเพื่อบำรุงผิว หรือบางชนิดก็กินเพื่อบำรุงอวัยวะภายใน แต่มีหนึ่งชนิดผลไม้ที่รวบรวมเอาข้อดีของผลไม้หลายๆชนิดเข้าไว้ด้วยกัน แถมยังมีรสชาติอร่อยถูกปากอีกด้วย มีประโยชน์มาขนาดนี้ไม่กินไม่ได้แล้ว ว่าแต่จะเป็นผลไม้ขนิดไหน ถ้าอยากรู้ตามมาดูเลยค่ะ
หากใครคิดที่จะดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยการรับประทานผลไม้ “แก้วมังกร“ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่คุณจำเป็นต้องทำความรู้จัก เพราะผลไม้ชนิดนี้มีดีรอบตัว แค่รับประทานทุกวันจะช่วยเพิ่มประโยชน์ให้คุณเกินความคุ้มค่าอย่างแน่นอน
และวันนี้เราได้สรุปมาแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากการรับประทาน “แก้วมังกร” ตามมาอ่านกันได้เลย
1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
คนที่เป็นเบาหวานแต่ต้องการทานผลไม้ให้ได้กากใย คุณสามารถทานแก้วมังกรได้อย่างไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้ที่เหมาะแก่การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวนและไม่ให้พลังงานที่สูงมากเกินไป
ดังนั้น ผลไม้ขนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างยิ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรรับประทานอย่างพอเหมาะพอดี เพื่อให้ได้ไฟเบอร์และน้ำตาลในปริมาณที่จะมีประโยชน์ต่อคุณมากที่สุด
2. ลดไขมันหรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี
คนที่เป็นโรคคอเลสเตอรอลสูงไม่ควรรับทั้งไขมันและน้ำตาลในปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาเหล่านี้สามารถรับประทานแก้วมังกรได้ เพราะผลไม้ชนิดนี้มีไขมันไม่อิ่มตัวและจะเข้าไปช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีในเลือด ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีในร่างกายได้อีกด้วย
ดังนั้น แก้วมังกรจึงเป็นผลไม้ที่ดีต่อร่างกาย ช่วยบำรุงสุขภาพและป้องกันโรคไปด้วยในตัว

http://www.rak-sukapap.com/2016/07/blog-post_20.html
3. ชะลอวัย ลดริ้วรอย นอกจากเรื่องของสุขภาพภายในแล้ว แก้วมังกรยังดีต่อผิวพรรณของคุณสาวๆด้วย เพราะแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง หากคุณต้องการทีผิวพรรณที่เต่งตึงไม่ว่าจะอายุมากเท่าไหร่ ก็ควรบริโภคแก้วมังกรไว้เป็นประจำ มันจะทำให้คุณดูอ่อนเยาว์กว่าวัยแบบไม่ต้องพึ่งครีมบำรุงผิวราคาแพงใด ๆเลย
4. ป้องกันมะเร็ง
สารอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในแก้วมังกรช่วยทั้งการบำรุงผิวพรรณ และช่วยต้านมะเร็งไปด้วยในตัว ดังนั้น นอกเหนือการรับประทานแก้วมังกรจะช่วยให้มีผิวสวยแล้ว คุณยังได้เพิ่มเกาะป้องกันเรื่องต้านมะเร็งไปด้วยในตัว
โดยเหตุผลที่แก้วมังกรเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายห่างไกลจากมะเร็ง ก็เพราะผลไม้ชนิดนี้สามารถช่วยลดการอักเสบและลดการก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งในร่างกายได้
5. กินแล้วไม่อ้วน
ประโยชน์ของแก้วมังกรมากมายขนาดนี้ แต่แคลอรี่ไม่มากเลย โดยแก้วมังกรประมาณ 200 กรัม ให้พลังงานแคลอรีเพียง 60 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ดังนั้น ใครที่กำลังต้องการลดน้ำหนักจึงควรลองรับประทานผลไม้ชนิดนี้เลย เพราะมันช่วยเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการแบบพอดิบพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
6. แก้ไอ ป้องกันหวัด
สำหรับใครที่กำลังเป็นหวัด ป่วยบ่อย นอกจากการรับประทานยาแล้ว การรับประทานแก้วมังกรก็ช่วยทุเลาความเจ็บป่วยนี้ลงได้เช่นกัน เนื่องจากแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่วิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินมีคุณสมบัติในการต้านหวัดได้ดี ดังนั้น การรับประทานแก้วมังกรจึงช่วยบำรุงร่างกายไปด้วยในตัว
7. ลดอาการปวดข้อ
โรคปวดข้อก็เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้สูงวัย จะทรมานไปทำไมละค่ะหันมารับประทานแก้วมังกรต้านอาการปวดดูดีกว่า ทั้งนี้เพราะแก้วมังกรมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและลดอาการปวดข้อได้ ใครที่เดินไม่ค่อยไหว นั่งนานก็ลำบากจึงต้องรับประทานแก้วมังกรบ่อยๆเข้าไหว เดี๋ยวก็ดีเอง
8. บำรุงผมสี
ไม่น่าเชื่อว่าแก้วมังกรจะช่วยบำรุงลึกไปถึงเส้นผมได้ด้วย ใครที่ทำร้ายเส้นผมด้วยการย้อม ดัด ยืดบ่อยๆ ต้องให้แก้วมังกรเป็นตัวช่วย เพราะแก้วมังกรสามารถบำรุงรักษาผมที่ผ่านการทำสีให้มีสุขภาพดีขึ้นได้
ทั้งนี้ วิธีการไม่ใช่การกิน แต่เป็นการใช้น้ำแก้วมังกรผสมลงไปในครีมนวดผมหรือทรีตเม้นท์ต่างหาก เพียงเท่านี้เส้นผมของคุณก็ได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่แล้ว
9. มาสก์หน้าลดสิว
ทำนองเดียวกับการบำรุงผม แก้วมังกรสามารถใช้บำรุงผิวหน้าได้ด้วย โดยนำเนื้อแก้วมังกรมาฝานเป็นแผ่นแล้ววางทิ้งไว้บนหน้า จากนั้นจึงล้างน้ำออก วิตามินซีในแก้วมังกรจะช่วยป้องกันการเกิดสิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มเนียน และช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยได้
10. รักษาแผลไหม้แดดได้
ประโยชน์ข้อสุดท้าย คือการบำรุงผิวเสียจากการโดนแดดแผดเผา โดยคุณสามารถใช้แก้วมังกรมารักษาผิวหนังบริเวณที่ไหม้แดดได้ ทั้งนี้เนื่องจากในเนื้อแก้วมังกรมีวิตามินบี 3 อยู่สูงมาก และวิตามินตัวนี้ก็ช่วยคืนความชุ่มชื้นบริเวณผิวหนังที่ถูกเผาไหม้ได้ดี ผิวคุณจึงกลับมาสวยดังเดิมได้ไม่ยากยังไงละคะ
สรรพคุณครอบจักรวาลของ “แก้วมังกร“ แล้ว ทำให้คุณเริ่มรู้สึกอยากทานผลไม้ชนิดนี้มากขึ้นแล้วหรือยังค่ะ เพราะทานผลไม้ชนิดเดียวสามารถดูแลได้ตั้งแต่สุขภาพภายใน ผม ผิวพรรณ และป้องกันโรคร้ายสารพัด ประโยชน์มากมายขนาดนี้ แก้วมังกรคงจะกลายเป็นหนึ่งในผลไม้ในใจคุณได้ไม่ยากอย่างแน่นอน